ททท. เร่งเดินหน้าบุกตลาดดาวรุ่ง Middle East ดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มศักยภาพใหม่ เจาะกลุ่ม Wellness และ Luxury ในงาน Arabian Travel Market 2025 มุ่งเป้ารายได้กว่า 98,000 ล้านบาทในปี 2568
ททท. เร่งเดินหน้าบุกตลาดดาวรุ่ง Middle East ดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มศักยภาพใหม่ เจาะกลุ่ม Wellness และ Luxury ในงาน Arabian Travel Market 2025 มุ่งเป้ารายได้กว่า 98,000 ล้านบาทในปี 2568
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เร่งเครื่องหาตลาดทดแทน นำคณะผู้ประกอบการไทย 55 หน่วยงาน บุกตลาดดาวรุ่งตะวันออกกลาง เพิ่มโอกาสเข้าถึงตลาดศักยภาพสูง มุ่งเจาะกลุ่ม Wellness และ Luxury ในงาน Arabian Travel Market (ATM) 2025 เจรจาธุรกิจสร้างเครือข่ายพันธมิตรผู้ประกอบการจากตะวันออกกลาง ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ระหว่างวันที่ 28 เมษายน – 1 พฤษภาคม 2568 พร้อมร่วมลงนามความร่วมมือกับพันธมิตรสายการบิน Emirates, Etihad และ Dnata Travel บูสต์ตลาดเต็มกำลัง ตั้งเป้านักท่องเที่ยวตะวันออกกลางและแอฟริกาปี 2568 จำนวน 1.1 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 98,000 ล้านบาท
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า งาน Arabian Travel Market (ATM) 2025 เป็นงานส่งเสริมการขายด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดของภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งในปีนี้ ททท. เข้าร่วมงานอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 25 และเป็นโอกาสดีในการเปิดตัวปี “Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025” ในตลาดตะวันออกกลาง ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีมูลค่าสูงและมีศักยภาพสำหรับการท่องเที่ยวไทยเป็นอย่างมาก โดย ททท. มุ่งนำเสนอสินค้าบริการทางการท่องเที่ยวที่หลากหลายและมุ่งตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลาง โดยเฉพาะกลุ่ม Wellness ที่ประเทศไทยมีความมุ่งมั่นที่จะเป็น Medical และ Wellness Hub ระดับโลก รวมถึงกลุ่ม Luxury, Family, Halal-friendly Tourism ควบคู่กับการนำเสนออัตลักษณ์เสน่ห์ไทยที่มีความหรูหราผ่านแนวคิดในการออกแบบคูหาประเทศไทย และการนำเสนอประสบการณ์ 5 Must Do in Thailand เพื่อเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวมาค้นพบความสวยงามของประเทศไทย และความอบอุ่นของมิตรไมตรีจากคนไทย รวมถึงความหลากหลายของสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวของ Amazing Thailand
สำหรับพิธีเปิดคูหาขนาด 315 ตารางเมตรประเทศไทยในปีนี้ ได้รับเกียรติจากนายสรยุทธ ชาสมบัติ เอกอัครราชทูตไทยประจำสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. พร้อมด้วยผู้บริหาร ททท. และทีมประเทศไทยในการเข้าร่วม โดยมีการแสดงไทยร่วมสมัย ชุด “สุวรรณภูมิ” ที่นำเสนอความรุ่งเรืองของดินแดนแห่งวัฒนธรรม ศิลปะและประเพณี ผ่านความงดงามของเครื่องแต่งกาย ดนตรี และการแสดงอันน่าตื่นตาตื่นใจ สำหรับกิจกรรมในคูหาประเทศไทย ททท.นำผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวจำนวน 55 หน่วยงาน ประกอบด้วย ธุรกิจโรงแรม บริษัทนำเที่ยว โรงพยาบาล ศูนย์เวลเนส ศูนย์การค้า และธุรกิจบริการท่องเที่ยวอื่นๆ มาเสนอขายสินค้าและบริการในฐานะผู้ขาย (Exhibitor หรือ Seller) เพื่อพบปะเจรจากับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่มาร่วมงานในฐานะผู้ซื้อ (Trade Visitor หรือ Buyer) โดยเฉพาะผู้ซื้อจากตลาดตะวันออกกลาง นอกจากนี้ ภายในคูหาประเทศไทย ยังได้นำเสนอกิจกรรมสาธิตงานหัตถกรรมเพ้นท์ร่มและพัดจากกระดาษสาจากอ.สันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ การแสดงทางวัฒนธรรมนำเสนอเทศกาลต่าง ๆ จากแต่ละภูมิภาคของประเทศไทย ได้แก่ เทศกาลมหาสงกรานต์ เทศกาลแห่เทียนบุญบั้งไฟ เทศกาลลอยกระทง และโนราห์สีสันแห่งอันดามัน โดยจัดการแสดงรอบละ 20 นาที 4 รอบการแสดงต่อวัน
ในโอกาสเดียวกันนี้ ททท. ได้ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือ (Memorandum of Cooperation : MOC) กับพันธมิตรสองสายการบินใหญ่ Emirates และ Etihad รวมถึง dnata Travel ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกด้านบริการทางการท่องเที่ยว เพื่อร่วมกันส่งเสริมและกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวตะวันออกกลางเดินทางเข้าสู่ประเทศไทย นอกจากนี้ ยังได้จัดกิจกรรม Media Launch เพื่อเปิดตัวแคมเปญ Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 เป็นครั้งแรกในตลาดตะวันออกกลาง โดยนำเสนอกิจกรรมภายใต้คอนเซปต์ 5 Grand : Grand Festivity, Grand Moment, Grand Privilege, Grand Invitation และ Grand Celebration ที่จะมาสร้างสีสันให้กับการเดินทางท่องเที่ยวประเทศไทยตลอดทั้งปี และแนะนำประสบการณ์ท่องเที่ยวและสินค้าบริการสำหรับกลุ่มตลาดเป้าหมาย ได้แก่ สินค้าและบริการทางด้าน Wellness ที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี และกรุงเทพฯ กลุ่มครอบครัว อาทิ ออร์แกนิกฟาร์มสเตย์ที่เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา และซาฟารีที่กุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รวมถึงย่านช้อปปิ้งและไลฟ์สไตล์ที่สร้างสรรค์ในกรุงเทพฯ สำหรับกลุ่ม Gen Y และ Z
ทั้งนี้ ภายหลังจากการนำผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมงาน ATM 2025 ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ททท.ยังมีกำหนดจัดกิจกรรม Amazing Thailand Post ATM Roadshow 2025 ในวันที่ 4-7 พฤษภาคม 2568 ณ กรุงริยาด เมืองดัมมัม ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย และเมืองโดฮา รัฐกาตา ตามลำดับ เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการการท่องเที่ยวไทย และจัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจและสร้างเครือข่ายระหว่างผู้ประกอบการไทยกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวในแต่ละพื้นที่
สำหรับตลาดนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางถือเป็นตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีความสำคัญและเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ 1 มกราคม – 22 เมษายน ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางเดินทางมาท่องเที่ยวยังประเทศไทย 162,790 คน โดยตลาดนักท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.26% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา พฤติกรรมนักท่องเที่ยวตะวันออกกลางมีวันพำนักค่อนข้างนานเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 13.6 วัน และมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยประมาณ 90,000 บาทต่อทริป ส่วนใหญ่ยังคงเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศไทยเป็นครั้งแรก จึงมีศักยภาพในการเติบโตได้อีกมาก โดยมีความชื่นชอบอาหารไทย ท่องเที่ยวชายหาด กิจกรรม Wellness แสงสียามค่ำคืน และแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ทั้งนี้ ททท. ตั้งเป้าหมายว่าตลอดปี 2568 นี้ จะมีนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางและแอฟริกาเดินทางมาท่องเที่ยวไทย 1.1 ล้านคน และสร้างรายได้กว่า 98,000 ล้านบาท
30 เมษายน 2568
ผู้ชม 4 ครั้ง