SBCN จัดประชุมเครือข่ายมะเร็งเต้านม APPIS ครั้งที่ 3 มุ่งลดอุปสรรคการรักษา เพิ่มโอกาสรอดชีวิตผู้ป่วยมะเร็งเต้านม
SBCN จัดประชุมเครือข่ายมะเร็งเต้านม APPIS ครั้งที่ 3 มุ่งลดอุปสรรคการรักษา เพิ่มโอกาสรอดชีวิตผู้ป่วยมะเร็งเต้านม
เครือข่ายมะเร็งเต้านมภาคเหนือตอนบน (Suandok Breast Cancer Network - SBCN) ร่วมกับบริษัท โนวาร์ตีส (ประเทศไทย) จำกัด จัดการประชุมเครือข่ายมะเร็งเต้านม (Alliance & Partnerships for Patient Innovation & Solutions - APPIS) ครั้งที่ 3 เพื่อเปิดเวทีแลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) และร่วมกันขับเคลื่อนระบบการดูแลผู้ป่วยมะเร็งเต้านมอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน โดยมีบุคลากรทางการแพทย์จาก 11 จังหวัดเข้าร่วมกว่า 57 คน
การประชุมครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่ต่อยอดจากความสำเร็จของ APPIS จากครั้งที่ผ่าน ๆ มา เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ของเครือข่าย SBCN ที่ดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องมากกว่า 20 ปี โดยเน้นการสร้างเครือข่ายโรงพยาบาลแม่ข่าย-ลูกข่ายการประชุมสหสาขาวิชาชีพและการดูแลแบบ One Stop Service ซึ่งช่วยให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาได้รวดเร็วขึ้น มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และลดอัตราการกลับเป็นซ้ำของโรค
ศ. พญ.อิ่มใจ ชิตาพนารักษ์ ประธานเครือข่ายมะเร็งเต้านมภาคเหนือตอนบน กล่าวถึงแนวคิดสำคัญที่ทำให้เครือข่ายนี้ดำเนินมาได้กว่า 20 ปีว่า “SBCN ไม่ได้เริ่มต้นจากการทำโครงการขนาดใหญ่ แต่เริ่มจากการแก้ปัญหาเล็ก ๆ ทีละจุด พัฒนาการประชุมสหสาขาวิชาชีพระหว่างแพทย์หลากหลายสาขา เพื่อวางแผนการรักษาให้คนไข้แบบครบวงจร จนกลายเป็นรูปแบบบริการ One Stop Service ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ สิ่งที่ทำไม่ใช่เพียงแค่การจัดอบรมหรือบรรยายวิชาการ แต่คือการลงพื้นที่จริง ทำงานร่วมกับหน่วยบริการในแต่ละจังหวัด เพื่อสร้างระบบการดูแลที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมให้แก่ผู้ป่วย”
ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา SBCN เริ่มถ่ายทอดประสบการณ์และแนวปฏิบัติที่ทำได้จริงไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ ผ่านการประชุม APPIS โดยเปิดให้แต่ละพื้นที่ได้นำเสนอปัญหาเฉพาะของตน และร่วมกันหาทางออกอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ SBCN ไม่ได้เพียงมอบความรู้ แต่ยังเปิดรับแรงบันดาลใจจากจุดแข็งของเครือข่ายอื่น ๆ กลับมาพัฒนาองค์กรตัวเองด้วย
“ทุกภาคมีจุดแข็งและจุดอ่อนที่แตกต่างกัน เราได้เรียนรู้จากกันและกัน และสิ่งเหล่านี้เองที่นำไปสู่การพัฒนาร่วมกันอย่างยั่งยืน” ศ. พญ.อิ่มใจกล่าว พร้อมอธิบายเบื้องหลังความสำเร็จของ SBCN ว่า “ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ความสำเร็จมาจากพลังของทีมที่หลากหลาย ทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน ตลอดจนบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ที่ร่วมแรงร่วมใจกันในฐานะอาสาสมัครที่ทำด้วยใจอย่างแท้จริง นอกจากนี้ SBCN ยังเดินหน้าปรับตัวสู่ยุคดิจิทัล ด้วยการนำเทคโนโลยีและเครื่องมือสื่อสารใหม่ ๆ มาใช้ในการให้ความรู้แก่ผู้ป่วย เช่น วิดีโอแอนิเมชัน และสื่อสิ่งพิมพ์ ที่สามารถนำไปใช้ระหว่างการเยี่ยมบ้าน เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโอกาสในการกลับเป็นซ้ำของโรค และกระตุ้นให้ผู้ป่วยเห็นความสำคัญของการติดตามผลการรักษาอย่างต่อเนื่อง”
แม้เครือข่ายจะมีพัฒนาการที่น่าพอใจ แต่ก็ยังมีประเด็นที่ต้องเร่งเสริมให้แข็งแรง โดยเฉพาะระบบ “เพื่อนช่วยเพื่อน” ที่ยังขาดความต่อเนื่อง หลังจากสิ้นสุดการรักษา ผู้ป่วยบางส่วนเลือกออกจากกลุ่มสนทนา ทำให้การดูแลด้านจิตใจและการแบ่งปันประสบการณ์ขาดช่วง ซึ่งจำเป็นต้องหาแนวทางใหม่เพื่อให้การสนับสนุนยังคงอยู่แม้จบกระบวนการรักษา เพราะเป้าหมายที่แท้จริงคือไม่ใช่แค่ทำให้ผู้ป่วยรอดชีวิต แต่ต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดี และได้รับการรักษาตามสิทธิ์ที่สามารถทำได้ ขณะเดียวกัน ภาคใต้แสดงให้เห็นถึงพลังของผู้ป่วยที่ลุกขึ้นมาเป็นกระบอกเสียง และเป็นกำลังใจให้กันและกัน จนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้เครือข่ายอื่นหันกลับมาทบทวนและพัฒนาระบบสนับสนุนผู้ป่วยให้เข้มแข็งยิ่งขึ้นในบริบทของตนเอง
ด้าน นพ.บารมี บุญเลิศ ศัลยแพทย์มะเร็งเต้านม โรงพยาบาลลำพูน หนึ่งในโรงพยาบาลลูกข่ายของ SBCN ที่ร่วมประชุมกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงหลังเข้าร่วมว่า “หลังเข้าร่วมเครือข่าย SBCN โรงพยาบาลลำพูนสามารถยกระดับการดูแลผู้ป่วยมะเร็งเต้านมได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านการใช้สูตรยาเคมีบำบัดที่ซับซ้อนขึ้น การสนับสนุนอุปกรณ์อย่างตู้ผสมยาเคมีบำบัดและการพัฒนาทักษะของบุคลากรทางการแพทย์ โดยมีโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่เป็นแม่ข่าย การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวช่วยเติมเต็มระบบการรักษาที่ในอดีต เนื่องจากบุคลากรเฉพาะทางมีจำกัดเพียงไม่กี่คน ซึ่งทำได้เพียงผ่าตัดและต้องส่งต่อผู้ป่วยไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลขนาดใหญ่ โรงพยาบาลลำพูนจึงเริ่มต้นพัฒนาระบบการให้ยาเคมีบำบัดสูตรพื้นฐานมาใช้ในพื้นที่ของตนเอง ก่อนขยายขีดความสามารถสู่การดูแลผู้ป่วยแบบครบวงจรในปัจจุบัน”
โรงพยาบาลลำพูนได้นำแนวทางของเครือข่าย SBCN มาประยุกต์ใช้ในการจัดประชุมสหสาขาวิชาชีพ โดยมีทีมแพทย์ พยาบาล และเภสัชกรร่วมกันวางแผนการรักษาในแต่ละเคสอย่างรอบด้าน ส่งผลให้การประสานงานส่งต่อการรักษาภายในโรงพยาบาล กับโรงพยาบาลแม่ข่ายมีความสะดวกรวดเร็วมากขึ้น โดยเฉพาะในกรณีที่ต้องการขอคิวด่วน ซึ่งสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องและไม่เกิดความล่าช้าในการรักษา
ในการประชุม APPIS ครั้งล่าสุด นพ.บารมีได้ร่วมถ่ายทอดประสบการณ์จากการพัฒนาระบบดูแลผู้ป่วยมะเร็งเต้านมของโรงพยาบาลลำพูนให้แก่เครือข่ายในภูมิภาคอื่น ๆ พร้อมเปิดรับแนวคิดใหม่ที่สามารถนำมาปรับใช้ให้เหมาะกับบริบทของพื้นที่ตนเอง เช่น การพัฒนาระบบข้อมูลผู้ป่วยให้ละเอียดและเป็นระบบมากขึ้น รวมถึงการเสริมความแข็งแกร่งของกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน เพื่อให้การดูแลผู้ป่วยมีความต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างพื้นที่จึงเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยให้แต่ละเครือข่ายสามารถต่อยอด และขับเคลื่อนการพัฒนาได้อย่างเหมาะสมและยั่งยืนในบริบทของตนเอง
ความสำเร็จของการประชุม APPIS ครั้งที่ 3 สะท้อนให้เห็นถึงพลังของการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างเครือข่ายจากหลากหลายภูมิภาค ซึ่งไม่ได้จำกัดเพียงแค่จำนวนผู้เข้าร่วม แต่คือการเปิดพื้นที่ให้เกิดการแลกเปลี่ยนแนวคิด ประสบการณ์ และแนวปฏิบัติที่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริงในแต่ละพื้นที่ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยอย่างเป็นรูปธรรม นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของ SBCN ในการขับเคลื่อนการพัฒนาเครือข่ายดูแลผู้ป่วยมะเร็งเต้านมของประเทศไทย ให้ก้าวไปสู่ความยั่งยืนในระยะยาว
27 พฤษภาคม 2568
ผู้ชม 79 ครั้ง